จากการที่ได้คลุกคลีกับตู้ไฟฟ้า และ ขบวนการผลิต มาระยะหนึ่ง พบว่า การที่จะได้ตู้ไฟฟ้าที่ดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มันมีปัจจัยหลายอย่างมาก ตู้ไฟฟ้ามันมี know how อยู่มากทีเดียว เดียวเราจะมาดูเป็นเรื่องๆ
1. โครงสร้างของตู้ไฟฟ้า ต้องเป็นตู้ไฟฟ้าที่มีโครงสร้างที่แข็งแรง มาตรฐาน IEC60439-1 ไม่ได้กำหนดชัดเจนว่าต้องทำแบบไหนดังนั้นผู้ผลิตจึงมีการใช้วัสดุที่ตัวเองคิดว่าทนทานแข็งแรง อาทิเช่นเหล็กดำ เหล็กขาว หรือแม้แต่เหล็กชุบกันสนิมแบบอิเล็คโตรกัลวาไนส์ (อันนี้ดีสุด) อันนี้เป็นเรื่องวัสดุ แต่การออกแบบและการประกอบนั้นเป็น Know How ของแต่ละโรงงานผู้ผลิต
2. เรื่องตัวนำหรือบาร์ทองแดงผมเน้นเรื่องทองแดงเพราะเราจะพบว่าทุกโรงงานใช้ทองแดงหมด ทองแดงต้องมีความนำไฟฟ้าสูง มีความต้านทานต่ำ และ ขนาดของทองแดงต้องเป็นไปตามมาตรฐาน เช่น หากเลือกมาตรฐาน DIN ได้ปัญหาจะน้อยกว่า แต่หากเลือกมาตรฐาน IEC ต้องดูองค์ประกอบหลายอย่างเพราะใน IEC เองไม่ได้มีการกำหนดขนาดของทองแดงไว้ชัดเจนแบบ DIN การใช้มาตรฐาน IEC ต้องมีการพิสูจน์ 3 เรื่อง
2.1 ขนาดทองแดงที่ใช้จะทำให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเท่าไหร่เมื่อจ่ายโหลดเติมที่ ที่ขนาดของตู้ไฟฟ้าที่ใช้งาน ขอการคำนวณจากผู้ผลิต คำนวณตามมาตรฐาน IEC 891
2.2 ขนาดทองแดงสามารถทนการลัดวงจรได้ไหม ของการคำนวณจากผู้ผลิ
3. อุปกรณ์ที่ใช้ในตู้ไฟฟ้า ต้องเป็นอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ ออกแบบอย่างเหมาะสม ตามที่มาตรฐาน IEC60439-1 กำหนด โดยตัวสำคัญคือเรื่องการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเมื่อใช้งาน และความทนทานในเรื่องการลัดวงจร ต้องสามารถทนได้ ไม่น้อยกว่า 1 วินาที แปลว่าหากเกิดการลัดวงจรตู้ไฟฟ้าต้องสามารถกลับมาใช้ใหม่ได้ โดยโครงสร้างเรื่องความปลอดภัยต้องไม่เสียไป ค่ากระแสลัดวงจรกำหนดโดยผู้ออกแบบ ซึงต้องสอดคล้องกับความสามารถในการจ่ากระแสลัดวงจรของการไฟฟ้า เช่น 250 MW หรือ 500 MW แล้วแต่พื้นที่
4. การประกอบตู้ต้องมีความแน่นของรอยต่อโดยเฉพาะส่วนที่นำไฟฟ้าเพราะตรงนี้เป็นสาเหตุหลักในการทำให้เกิดการลัดวงจรหรือตู้ไฟฟ้าไหม้
5. ตู้ที่ประกอบแล้วต้องมีการทดสอบเรื่องฉนวนไฟฟ้า ของตู้ซึ่งปกติบ้านเราใช้แรงดัน 400 -440 line to line ก็จะมีความเป็นฉนวนตามมาตฐาน IEC อยู่ที่ 400,000 โอห์ม แต่ผู้เขียนแนะนำว่าไม่ควรต่ำกว่า 50,000,000 โอห์ม ความต้านทานที่สูงจะเป็นตัวที่บ่งบอกความทนทานของตู้ไฟฟ้าได้ส่วนหนึ่ง
6. การทดสอบความทนทานต้องกระแสสลับและการรั่วไหล ต้องมีการทดสอบโดยปกติที่ 400-440 V จะทดสอบที่ 2500 Vac และต้องทดสอบ 60 วินาที กระแสที่รั่วไหลต้องไม่เกิน 10 mA
7. ตู้ไฟฟ้าต้องทำงานได้ตาม function ที่เราต้องการต้องมีการทดสอบ ในส่วนนี้ว่าได้ตามที่เราต้องการหรือไม่ ที่สำคัญระบบควบคุม และแหล่งจ่ายไฟ ต้องสามารถใช้แหล่งจ่ายไฟ สำหรับระบบควบคุมได้ เมื่อแหล่งจ่ายไฟหลัก หายไป เรียกว่า Voltage Selection Source ต้องมีการเตรียมไว้ด้วย
8. ตู้ไฟฟ้าทุกตู้ต้องมีความร้อนมากนี้ขึ้นอยู้กัน ข้อ 1-7 เมื่อเกิดความร้อน การระบายความร้อน เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณา อย่างมาก ความทนทานทั้งหมดจะไม่เกิด เมื่อเรื่องนี้ไม่ได้รับ การพิจารณา ตู้ที่มีความร้อนสูง เสี่ยงอย่างมากที่จะเกิดความเสียหาย ความร้อนเกิดจากระบบไฟฟ้าในตู้ มันเปลี่ยนจากกระแสไฟฟ้าที่ไหลในตู้ ดังนั้นมีคือความสูญเสียที่เจ้าของโครงการที่ต้องจ่ายตลอดเวลา ดังนั้นการลงทุนเรื่องลดความร้อนหรือการใช้ตู้ที่สร้างความร้อนน้อยอาจเป็นแนวทางของ Energy Saving ทีแท้จริง การลดความร้อนไม่ใช้เป้นการเพิ่มพัดลมระบายอากาศ หรือติดตั้งเครื่องปรับอากาศ การทำเช่นนั้น นอกจากเป็นการสิ้นเปลี่องแล้วยังเป็นการแก้ปัญหาที่ผิดฝาผิดตัว การแก้ปัญกาที่ยั่งยืนจึ่งน่าจะเป็นการเลือกใช้ หรือ ซื้อตู้ไฟฟ้าจากผู้ผลิตที่มีคุณภาพสูงน่าจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องมากกว่า